ผมว่าเรื่องนี้จะเป็น Freediving Inspiration ให้กับหลายๆคน ที่กำลังสนใจฟรีไดฟ์
ตอนแรกว่าจะทำคลิป แต่รู้สึกว่าคนตามดีพชอบอ่านมากกว่า แล้วก็ให้สำหรับคนที่ไม่มีที่ไปในช่วงสงกรานต์อ่าน เลยพิมเอาดีกว่า … 55
ผมว่าหลายๆคนยังสงสัยว่า ฟรีไดฟ์เนี่ย นอกจากไปท่องเที่ยว ไปถ่ายรูปใต้น้ำ ไปแข่งขัน ไปสอบให้ได้ใบ Cert แล้วมันทำอะไรได้อีกบ้าง . . จริงๆถ้าลองมองดีๆ พวกนี้แอบเปนเรื่องปลายทางอยู่นะ มันมีเรื่องที่ใกล้ตัวกว่านั้นมากๆ อยากจะแชร์แล้วให้ลองสังเกตุตัวเองดู ว่าเคยมีความคิดอะไรแบบนี้มั้ย…. จะลองเล่าผ่าน Journey ความดีพ ที่ไม่ดีพของตัวเองนะ 
ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามารู้จักฟรีไดฟ์ คือ ผ่านแฟนครับ มาเล่าให้ฟัง มาเอาวีดีโอให้ดู ว่า ฟรีไดฟ์มันเปนยังไง สวยมาก ได้ลงไปดู นู่นนี่นั่นแบบ ตัวเปล่า ไม่ต้องมีถังอากาศดูน่าสนุกดี .. ส่วนตัวชอบการเล่นน้ำมาก ชอบทะเล แต่ถ้าตั้งกลั้นหายใจ ก็ไม่ไหวป่ะนะ เพราะดูคลิป แล้วลองกลั้นหายใจ 30 วิ ไม่ไหวว่ะ จะตาย คิดว่าไม่รอดแน่ๆ แล้วพอดูคลิปไปเรื่อยๆ ตายๆ ไม่รอด อย่าทำเลยกิจกรรมนี้ (จนเกิดประโยค classic ที่คุยกับจ๋าว่า ………… ใครที่ตามดีพมานานๆจะรู้ว่าประโยคนี้คืออะไร 55)
จนมันมีวันนึงที่จะพาพ่อแม่และครอบครัวไปเที่ยว เลยคิดว่าถ้ามีฟินสักคู่ น่าจะพอช่วยดูแลคนอื่นได้บ้าง ก็เลยหาซื้อฟินเบาๆสักคู่ เบาไป เบามา ไปจบฟินฟรีไดฟ์คู่ละหมื่นกว่าบาท 2 คู่ ยังฟรีไดฟ์ๆไม่เปนด้วย ก็เอาไปดำ ก็ดำได้ 2-3 เมตรนั้นแหละครับ เจ็บหู ไม่รู้ว่าเคลียร์หูคืออะไร … (แล้วก็ไปเหนเรือข้างๆ เปนเรือพา นร ฟรีไดฟ์มาซ้อม มั่นใจเพราะฟินยาวๆทุกคน แล้วเค้าลงได้เยอะกว่าที่เราลง ต่ำๆก็ 5 เมตรอ่ะ) มันแบบคาใจ
กลับมาเปิด youtube เลย search “เคลียร์หู ดำน้ำ” ไล่อ่านไปเรื่อยๆ เจอ Valsalva เปนส่วนใหญ่ (ตอนนั้นไม่รู้ว่าดีไม่ดีนะ) ก็ลองทำดู เอ้อ ได้นิ ก็ไปหาสระเล่น 2-3 เมตร ปักหัวเท่านั้นแหละ เงียบ สนิทเลย ชิบหาย แล้วช่วงนั้นคือมีงาน Tdex เพื่อนก็ลากไปลงเรียน กับ รร ที่เพื่อนเรียนอยู่แล้ว ซึ่งตอนนั้นตามตรงเลย ไฟท่วมตัว 555 เพราะเปนคนชอบกิจกรรมในน้ำมากๆ พอลงเรียนเสร็จ ยังไม่ได้เริ่มเรียนด้วยนะ
กลับบ้าน เอาใหม่ search ใหม่ “ฟรีไดฟ์ เคลียร์หู” ซึ่ง 5-6 ปีที่แล้ว ไม่มีข้อมูลของคนไทยนะ หาไม่เจอ แต่ถ้าเปนต่างชาติ มีเจอ เริ่มมีเจอคำว่า frenzel อ่านๆแล้วเข้าใจบ้าง งงบ้าง แล้วนึกขึ้นได้ว่า อ้อ มีเพื่อนเรียน scuba ดำไปลึกกว่าเราอีก มันต้องทำได้แน่ๆ สบายๆ ผมโทรเลย “สอน frenzel หน่อย” สรุป เพื่อน งง อะไรคือ frenzel ที่ทำคือ มีบีบจมูกหายใจออก กับ กลืนน้ำลาย หรือ ไม่ก็ขยับกราม … ชิบหายละ ถามกี่คนก็ไม่รู้ … ในใจคือรู้ปัญหาตัวเองแล้ว คือถ้าไปเริ่มเรียน แล้วเคลียร์หูไม่ได้ จบแน่กิจกรรมนี้ รวมกับความเท่ในการเล่นกิจกรรมในน้ำจะหายไป
งั้นเอาใหม่ กลับบ้าน ที่พึ่งเดิม youtube สิครับ แต่เปลี่ยน version เราไปต่างประเทศเลยละกัน “freediving frenzel” อ่ะ เจอมากขึ้น ไล่อ่านไป เข้าใจมากขึ้น แล้วก็ดูไปเรื่อย จนเริ่มเข้าใจละว่าการทำงานของ frenzel คืออะไร (อ้อ ระหว่างดู มันก็จะเจอการเคลียร์หูอีกหลายแบบมากๆ แล้วก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองทำ handfree ได้ก่อน frenzel แต่ยังไม่แข็งแรง เดี๋ยวมาเล่าแยกอันนี้ อันนี้ก็สนุกมาก) แต่ยังรู้ว่าจะฝึกยังไง ก็หาไปเรื่อยๆ
จนไปเจอคลิปอยู่ 2-3 อัน ที่ดูมี exercise และ guideline ให้ พอให้คลำทางได้ (ตอนนั้นไม่มี EQ Tool นะ หรือไอลูกโป่งที่ในปัจจุบันเล่นกันใหญ่เลย) แล้วก็ไม่มีคนตรวจให้ด้วย ว่าถูกหรือไม่ถูกก็ไม่รู้ แต่มั่นใจว่าถ่องแท้ในหลักการทำงาน เพราะอ่านมาเยอะ แล้วเปิดหนังสือ Anatomy ดูเลย ว่าตรงไหน ไม่น่าพลาด ลองเลย
สิ่งที่ใช้มีอย่างเดียวเลยคือ กระจก!!! เดินเข้าห้องน้ำทุกๆ 5 นาที อยู่ครั้งละ 10-15นาทีได้ เมื่อยลิ้น เมื่อยปาก เมื่อยคอ ก็เดินออกมาพัก แรกๆก็เซ็งอยู่นะ ทำไมขยับไม่ได้ เหมือนในคลิป แต่ก็ไม่เปนไร ลองไปเรื่อยๆก่อน เพราะถ้าก่อนเรียนทำไม่ได้ เดี๋ยวจะเหงา … ก็วนแบบนี้ครับ
ผ่านไป 1 วัน โคนลิ้นมา เริ่มคุมแบบสั่งได้ (อ่อ ได้ soft palate มาด้วยอีกชิ้น) ใจเริ่มมา ก็ค่อยๆหากล้ามเนื้อต่อ วันที่ 2 เริ่มหาชิ้นต่อๆไป ก็เริ่มเจอ (ซึ่งที่ทำมาทั้งหมด ไม่รู้ถูกมั้ยนะ เพราะไม่มีคนเชคให้ แต่ก็ทำต่อไป เชื่อว่าถูกไว้ก่อน เพราะเราวิจัยมาเยอะ 555) พอคิดว่าโอเคร หาเจอหมดละ เอามาประกอบร่างกัน ทำ frenzel 1 2 3 …. เงียบ ไม่มีไรเกิดขึ้น อันนี้คือจังหวะเซ็งสุดในโลก เหมือนตอนทำงานเป็น network engineer เลย ทุกอย่างถูกต้อง แต่ไม่ work 555
นอนพัก วันที่ 3 ตื่นมา ขยับกล้ามเนื้อทุกชิ้นของ frenzel เพราะกลัวลืม .. เออยังอยู่ว่ะ เดินเข้าห้องน้ำ ตั้งท่าเลย จัดกล้ามเนื้อ ทำ frenzel ก่อนแปรงฟัน ก่อนฉี่ ด้วย มันมีเสียงฝึ่ดที่หู … เห้ย .. ยังไง .. ลองอีกที ฝึ่ด … เบาลง ทำอีกที อ่าวหายไปไหนวะ 
ไม่เปนไร มะกี้มันต้องมีอะไรที่ถูก ลองใหม่ๆๆ แล้วก็แบบ มาๆ หายๆ คราวนี้ งานสำรวจช่องปากมาเลย นั่ฃส่องกระจกใหม่ หามุมๆๆ 555 ต้องปรับมุมๆๆ แล้วมันก็เริ่มเคลียร์ออกบ่อยขึ้นๆๆๆ จนจบวันที่ 3 100% มาทุกครั้ง ออก 2 ข้างด้วย ใจมาเลย
แล้วพอถึงวันเรียน ถึงบทเคลียร์หู ครูให้ลองเคลียร์หู แล้วเอามือจับท้อง .. รู้สึกท้องขยับมั้ย … ทุกคนบอกมีๆๆๆ ผมนี่กลุ้มกริ่มเลย (ในใจบอกไม่ขยับครับ) แต่ก็บอกขยับๆ เหมือนคนอื่น เดี๋ยวแตกฝูง เพราะรู้ว่าครูสอนแบบไหนอยู่
อ่อลืมบอก ก่อนเรียนจริงๆแอบไปซ้อมตีขา ซ้อมดั๊กไดฟ์ แล้วก็ ซ้อม dry static ด้วย (วิจัยมาแล้วแบบไหน Safe) เรียนวันแรกไม่ติดอะไรเลย ทุกอย่างง่ายมากๆ สนุกจัด ดีหมด ติดอย่างเดียว อย่างเดียวเลยคือ blackout ที่ 5 นาที ในคาไหล่นุ่มๆของครู 555+ (อันนี้ไม่ได้ push ไม่ได้ฝืนนะ ซ้อม Dry มา 1-2 เดือน 5 นาทีเปนเรื่องง่าย แต่ Dry Static กับ In-Water Static มี protocol ที่ต่างกัน ซึ่งผมทำผิด 555+ เพราะไม่เคยฝึกมาก่อน มันอันตรายถ้าทำคนเดียว เลยรอมาฝึกกับครู .. แล้วก็จริง ถ้าไปฝึก In-Water Static โดยไม่มีครู กลับบ่อเกิดใหม่ไปแล้ว)
ในสระเสร็จก็หนีเพื่อนๆไปออกทะเลก่อนคนเดียว เพราะตอนนั้น flexible ทางด้านเวลาสุด ด้วยตัวงานที่ลาได้ ถ้า manage งานได้ แล้วก็อยากลองด้วย ที่ซ้อมมาเยอะแยะ จะมีประโยชน์ขนาดไหน (คือลงสระซ้อมหลังจากเรียนน่าจะมี 4-5 ครั้งเปนอย่างน้อย สระ 2 เมตรกว่าๆนี่แหละ แต่ซ้อมได้เยอะมาก)
ทะเลครั้งแรกคือ ง่ายมาก! (อันนี้เลยบอกทุกคนว่า ซ้อมดีๆ แล้วทะเลจะสนุกมาก) เรียกว่าผ่านทุกอย่างในวันแรกยังดูเยอะเกินไปเลย เพราะ ผ่านทุกสกิลใน 1 ครั้งหมด 10เมตรรัวๆ ที่เหลือว่ายเล่น รอเพื่อน (ในใจนึกเลย ถ้าไม่ซ้อมมาก่อนเยอะๆ ตอนนี้ก็ไปเกาะบุยอยู่กับเพื่อนๆนั่นแหละ) สรุปวันนั้น ผ่านคนเดียว เย้ 555
กลับมา ก็ลง advanced แล้วก็ผ่านในรอบเดียว เหมือนเดิม ซึ่งพอดำมาเรื่อยๆ จริงๆ objective ใน freedive เปลี่ยนไปเรื่อยๆเลย
เริ่มแรกมันด้วยความอยาก challenge ตัวเอง อยากทำให้ได้ พอทำได้ก็อยากรุ้ limit ตัวเอง แต่พอดำไปเรื่อยๆอีก กลับรู้สึกว่า จริงๆที่ชอบคือการได้อยู่ในน้ำ แค่นั้นเลย ได้ขยับตัวช้าๆ ได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ได้เที่ยว ได้สนุก ได้หายใจ ได้กลั้นหายใจ .. เออแล้วก็ได้แชร์สกิลกับเพื่อนๆ สอนเพื่อนๆ สนุกดี (สอนแบบ ไม่ใช่ครูสอน นร นะ สอนแบบเทคนิคเล็กๆน้อยๆ อะไรสนุกๆ) พอมาถึงจุดนี้ เลิกสนใจการลงลึก การกลั้นหายใจนานๆ Quantity พวกนี้หายไปหมดเลย … สนุกกับ Quality ของการดำมากกว่า ดำให้สบาย ดำให้ชิล ดำให้สนุก .. พอเปนแบบนี้ ดำที่ไหนก็ได้ Happy เท่ากันทุกไดฟ์ … ส่วนเส้นทางการสอนการเป็นครู อันนี้นอกแพลนเลย ไม่เคยอยู่ในความคิด ..ไว้มาเล่าให้ฟังใหม่ ว่ามายังไง เพราะจะยาวมากๆแบบนี้อีก 1 โพสต์ 555
ใครอ่านแล้วได้อะไรบ้าง เมนท์บอกกันหน่อยนะครับ
ปล. ฝาก update สั้นๆ
– เดือน พค เป็นต้นไป จะเปิดคอร์สสำหรับคนที่เริ่มเรียนฟรีไดฟ์ใหม่ในวันธรรมดามากขึ้น เพราะว่า คนใช้สถานที่น้อยกว่า เหมาะสำหรับการฝึกซ้อม แล้วก็ที่สำคัญมากๆได้ความสงบดีถ้าอยากจะฝึก Mind กับ Breathwork ที่เป็น topic ที่ชอบมากๆ ในฟรีไดฟ์ ถ้าอะไรหลายๆอย่างสะดวกขึ้น จะเป็น topic อันนึงที่จะเพิ่มเติมให้กับ Beginner ด้วย (สำหรับใครที่สะดวกอยากให้ขยับมาเป็นวันธรรมดาได้เลบนะครับ)
Keing
Deep Finder Founder
#deepfinder #freediver #freedive #ครูเคี้ยงที่สอนทั้งฟรีไดฟ์แล้วก็โยคะ #ครูเคี้ยง
