Freediving (ฟรีไดฟ์) เรียน ฟรีไดฟ์ ที่ไหนดี ?

การเริ่มต้นที่ดี บ่งบอกเส้นทางที่สดใส ในการเรียน Freediving

ช่วงนี้มีคนทักมาถามว่าเยอะมากว่า “สอน Freediving มั้ย” “เมื่อไหร่จะเปิดสอน?” “ตามเพจมาตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เปิดสอน” เอ้ยยย ผมก็เปิดสอนมานานแล้ว หลายปีแล้ว อะไรคับเนี่ย 555+ แต่พอมาดูหน้าเพจ อ่อ ก็ไม่ค่อยโพสต์สอนฟรีไดฟ์ พวก shop ก็เอาออกไปหมดแล้ว … เออมันก็ไม่แปลกอ่ะ ที่เค้าจะคิดว่าไม่สอน 55+ แต่ก็ปล่อยไปแบบนี้แหละ ถ้าเค้าอยากเรียนเค้าจะหาเจอเอง 55

แต่ไหนๆก็มาเรื่องเรียนๆสอนๆแล้ว ได้ข้อมูลดีๆมาแนะนำให้คนที่กำลังหาที่เรียนฟรีไดฟ์อยู่ เพราะส่วนใหญ่ที่ทักเข้ามา ผมว่ายังเลือกกันได้ไม่ดีอ่ะ อ่ะยังไงมาดู

1.) เรื่องสถานที่เรียน

(อย่าเลือกเรียนแค่ว่าใกล้!! จงเชื่อ!!)

-มันจริงนะ เราขี้เกียจเดินทางอยู่แล้วแหละ รถก็ติด น้ำมันก็เปลือง แต่ๆๆๆ ย้ำเลยนะว่า แต่ … Freediving Course ส่วนใหญ่มันจะใช้เวลาเรียนสักกี่วันกันเชียว ถ้าเจอที่เรียนที่ดีที่ชอบแล้ว มาแพ้ระยะทาง โคตรน่าเสียดายบอกเลย ไม่กี่วันเอง ฮึ่บหน่อย มันเป็น Expereice และ skillsets ที่มันจะอยู่กับเราไปจนตายแล้ว แล้วยิ่งกับคนที่พึ่งเริ่มเรียนใหม่ มันคือ First Impression กับสิ่งๆนึงเลย ถ้าเราศึกษาแล้ว ดูแล้ว ชอบ ก็ไปเถอะ จะสักกี่วันกันเชียว .. อย่าแบบว่า ไกลอ่ะ อยากเรียนใกล้บ้าน ขี้เกียจเดินทาง ที่ไหนก็เหมือนๆกันแหละมั้ง …. อย่าคิดแบบนั้น น่าเสียดาย เชื่อผม มันไม่เหมือน เลือกที่ชอบ อย่าให้ระยะทางเป็นอุปสรรค แล้วไปคับ!!!

(ตัวผมเองเนี่ย ก็ take course อะไรสนุกๆไว้ วิ่งข้ามจังหวัดทุกอาทิตย์ ทั้งๆที่ห่างออกไป 1กม ก็มี ทำไมเลือกไปเรียนแบบไปกับเกือบ 100โล ก็ชอบอ่ะ คิดว่าใช้ ระยะทางแค่นี้กระจอกมาก)

2.) ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตัว Course

(Courseแต่ละที่ไม่เหมือนกัน อย่าเลือกเพราะถูกอย่างเดียว! เลือกให้เหมาะสมกับความต้องการ)

– คือ Course เดียวกัน ต่างสถาบัน ต่างคนสอน เค้าก็จะมี รายละเอียด Detail ย่อยๆที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ราคา เรื่อง อุปกรณ์ที่ใช้ สถานที่ เงื่อนไข อะไรต่างๆอีกมากมาย อย่าคิดว่าเคยถามที่นึงแล้ว ที่อื่นๆก็จะเป็นแบบเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นหลักสูตรเดียวกัน จาก agency เดียวกัน มันก็ไม่เหมือนครับ เพราะฉะนั้น ถามทุกที่ ที่สนใจ ให้ละเอียด จะได้ไม่มีปัญหากันทีหลัง มันจะพลอยทำให้ไม่สนุกไปด้วย และสุดท้าย มันก็จะเป็นเรื่องราคา

– ราคาแต่ละที่มันสูงต่ำไม่เท่ากัน ก็ดูว่าราคานั้นๆมัน cover อะไรบ้าง มันคุ้มมั้ยสำหรับเรา คุ้มก็จัด ไม่คุ้มก็เปลี่ยน ถ้าดูแล้วมันถูกไป แสดงว่าเราแพงกว่านั้น ถ้าดูแล้วมันแพง อ้อ เค้าไม่ได้ขายเรา เพราะงั้นก็เลือกคับ เลือกที่ชอบ

3.) ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนและผู้สอน

– อันนี้ก็เจอเยอะ อันนี้กล้าพูดเลย ผมสัมผัสเรื่องนี้มาเยอะมาก ตั้งแต่สมัยทำ workshop ตอนเริ่มทำฟิน freedive ใหม่ๆ ผมได้เจอเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จากหลายๆสถาบัน (กล้าพูดว่าเยอะที่สุดอ่ะ) แล้วก็เป็นเรื่องปกติ ที่จะมีการแชร์ประสบการณ์กัน ซึ่งก็จะมีความงงๆว่า ทำไมที่นี่เป็นแบบนี้ แบบนั้น ทำไมไม่เหมือนกัน อันนี้ดี อันนี้ไม่ดี อันนี้ชอบ อันนั้นไม่ชอบ …. ซึ่งสุดท้ายผมก็ถามว่า ก่อนไปเรียนได้ศึกษาอะไรมั้ย ….. คำตอบก็ที่รู้ๆกัน “ไม่มีอ่ะ” ส่วนใหญ่ก็คืดว่าที่ไหนก็เหมือนกัน เค้าก็สอนเหมือนๆกันแหละ จบคับ 555+ รู้แล้วนะว่าปัญหาอยู่ตรงไหน

– เลือกที่เรียนฟรีไดฟ์ มันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการที่เราเลือกเข้า มหาลัย เลือกเข้า คณะ อ่ะ feel เดียวกันเลย แต่ละที่มันมีสังคมคน energyคน directionของสถาบัน นิสัยคน natureคนที่มันไม่เหมือนกัน เพราะงั้นมันคือการเลือกว่าเราอยากจะเอาตัวเราไป Experience อะไรอ่ะ เพราะฉะนั้นก็เลือกคับ

พูดได้เพราะ Cross มาหลายหลักสูตร เรียนมาหลายที่ เสพย์มาหลายขนาน Feel มาหลายสังคม สุดท้ายมันก็ได้อะไรเท่ๆมาอยู่รอบตัวแบบนี้แหละคับ เพราะงั้น หาของตัวเองให้เจอ แล้วมันจะสนุก

Deep Finder เป็น Community ที่เชื่อว่า Foundation Skills และพื้นฐานที่ดีคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าเราจะฟรีไดฟ์ไปเพื่อ ดำน้ำท่องเที่ยว ถ่ายรูป สุขภาพ แข่งขัน ทั้งหมดจะทำได้ดี เพราะมีพื้นฐานที่ดี และ พื้นฐานที่ดีมาจากการซ้อมที่ถูกต้อง เราจะค่อยๆเรียนรู้ไปด้วยกัน ช้าๆ เรื่อยๆ จนกกว่าเราจะได้เจอความชิลในการฟรีไดฟ์

Good Luck, Have Fun

ขอให้โชคดี เจอ รร ครู สังคม และ ฟรีไดฟ์ที่ตรงจริตกับตัวเองนะครับ

Keing Jaja

Deep Finder Founder

“Find Your Deep”

#deepfinder#deepfinderth

#freediving#freediver#freedive

#ฟรีไดฟ์#เรียนฟรีไดฟ์#สอนฟรีไดฟ์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top